เพราะชาวญี่ปุ่นเชื่อว่าพวกเขามีเทพเจ้าอันน่าศรัทธาคอยคุ้มครอง และเทศกาลนี้ก็เป็นเทศกาลที่ชาวเกียวโตจะแสดงความขอบคุณแก่เทพเจ้าที่ช่วยรักษาสภาพอากาศที่ดีเอาไว้ให้กันตลอดปี น่าสนใจใช่มั้ยล่ะ
จุดกองไฟขนาดใหญ่เพื่อขอพรให้ตัวเองโชคดี เป็นพิธีอันโด่งดังของเกียวโตในช่วงปลายฤดูหนาวที่ผู้คนทั่วประเทศต่างหลั่งไหลเข้ามาร่วมงาน หากคุณไปเกียวโตช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์พอดีก็ไม่น่าพลาดนะ
ขึ้นชื่อว่าคลับ หลายคนอาจนึกไปถึงคลับที่มีแต่เสียงสีและเต็มไปด้วยเสียงเพลงเร้าใจ แต่ไม่ใช่กับที่เกียวโตจังหวัดวัฒนธรรมแห่งนี้แน่นอน เพราะที่นี่คือคลับที่เราสามารถสัมผัสกับวัฒนธรรมญี่ปุ่นต่างๆ ได้ ทั้ง
สนุกสนานกับการเปลี่ยนตัวเองให้เป็นเกอิชาที่เหมือนที่สุด แล้วออกไปเดินสวยๆ ในย่านกิออนกันเถอะ! (แล้วลองดูสิว่าจะมีใครจ้องมองคุณบ้างไหม)
ไม่เพียงแต่จะเป็นออนเซ็นได้รับการขนานนามว่าเป็นออนเซ็นที่ดีที่สุดในเกียวโตแล้ว ที่นี่ยังถือว่าเป็นออนเซ็นที่มีบ่อน้ำร้อนหลากหลายรูปแบบมากมายให้ลองเลือกแช่กันด้วย
โยนกระเบื้องขจัดกรรมที่วัดวัดจิงโกะ-จิ กันเถอะ กิจกรรมที่ใครๆก็ต้องมาทำ แผ่นกระเบื้องนี้จะลอยหายไปในหุบพร้อมกับความโชคร้ายของเรา แล้วเราจะกลับไปพร้อมความสุขยังไงล่ะ
สัมผัสบรรยากาศใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วงและวัดจินโกะ-จิ เชมโยะ-จิ และโคซาน-จิทาคาโอะ ในหมู่บ้านทาคาโอะกันดีกว่า หมู่บ้านในภูเขาที่จะทำให้คุณอยากหลงเข้าไปจนไม่อยากออกมาเลยล่ะ
รูปปั้นม้าพลาสติกตรงทางเข้าศาลเจ้าศาลเจ้าคิบุเนะ-จินจา เชิญชวนให้เข้าไปชมและถ่ายรูปอยู่นะ ศาลเจ้าแห่งนี้ซึ่งอยู่ตรงกลางระหว่างหุบเขาและเมืองคิบุเนะ เหมาะสำหรับการแวะชมที่สุด
วันหยุดต้องพักผ่อนกับออนเซนสิถึงจะฟินได้ใจ คุรามะออนเซน เป็นหนึ่งในออนเซนไม่กี่แห่งที่ไม่ไกลจากเกียวโต ที่จะช่วยให้คุณผ่อนคลายสุดๆหลังจากการเดินเขาอันหนักหน่วง
รับลม ชมวิวกับบรรยากาศ ร่มรื่นชวนฝันที่ วัดคุรามะ-เดระ วัดนี้สร้างเมื่อปี 770 ทางเดินขึ้นเขาเชื้อเชิญให้ใช้ถ้าอากาศไม่ร้อนเกินไป เพราะลดเลี้ยวผ่านป่าต้นซูกิ ซึ่งเป็นต้นไม้สูงอายุยืน